ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2540
ป.อ. มาตรา 78
ป.วิ.พ. มาตรา 248.
ป.วิ.อ. มาตรา 15.
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงฟังเป็นยุติตามคำรับสารภาพของจำเลยจำเลยอาจหาฎีกากล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่อันขัดต่อคำรับสารภาพและคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองได้ไม่ เมทแอมเฟตามีนของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก1,406กรัมสามารถก่อภัยอันตรายร้ายแรงต่อสุจริตชนทำให้เกิดปัญหาความสงบสุขต่อสังคมในปัจจุบันการที่ศาลลงโทษจำคุก9ปีนับว่าเหมาะสมต่อสภาพความผิดแต่เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนตลอดถึงชั้นพิจารณานับว่ารู้สึกความผิดและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาสมควรได้รับความปรานีลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
___________________________
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน จำนวน 101 เม็ดคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 1,406 กรัม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนดไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับจำเลยและยึดเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 4, 5, 6, 7, 11, 13 ทวิ, 59, 62, 89, 106 ทวิ, 116ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 กับริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีกำหนดโดยผิดกฎหมายซึ่งเป็นบทหนักเท่ากันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 5 ปีจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้จำคุก2 ปี 6 เดือน ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานหนัก
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุก 9 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้จำคุก6 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ขายเมทแอมเฟตามีน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนดไว้ในครอบครองเพื่อขาย ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงฟังเป็นยุติตามคำรับสารภาพของจำเลยจำเลยหาอาจกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่อันขัดต่อคำรับสารภาพและคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองได้ไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า วัตถุของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนักถึง 1.406 กรัม ซึ่งสามารถก่ออภัยอันตรายร้ายแรงต่อสุจริตชนทำให้เกิดปัญหาความสงบสุขต่อสังคมในปัจจุบันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลงโทษจำคุก 9 ปี นับว่าเหมาะสมต่อสภาพความผิดแต่ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลดโทษให้จำเลยเพียงหนึ่งในสาม ยังไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา เพราะคดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนตลอดถึงชั้นพิจารณา นับว่าจำเลยรู้สึกความผิดและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา สมควรได้รับความปรานีลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นเป็นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง คงจำคุกมีกำหนด4 ปี 6 เดือนนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3
(เสริมศักดิ์ ผลัดธุระ-สัญชัย สิงหลกะ-อำนวย หมวดเมือง)
แหล่งที่มา
สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น
หมายเหตุ
หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
Line id : lawyer_2 ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com