ห้ามนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์

ห้ามนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ เช็คที่นายวงแชร์สั่งจ่ายไม่มีมูลหนี้ นิติกรรมการเล่นแชร์ตกเป็นโมฆะ หนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ผู้สลักหลังไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2545

เมื่อวงแชร์ที่เป็นมูลหนี้ในการสั่งจ่ายเช็คพิพาทมีห้างหุ้นส่วนจำกัดพ. ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ อันต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ฯ มาตรา 5 นิติกรรมการเล่นแชร์ดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 เช็คพิพาทจึงไม่มีมูลหนี้ที่จะบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาท และการที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้สลักหลังให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1ใช้เงินตามเช็คพิพาทดังกล่าวแก่โจทก์ซึ่งเป็นหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยที่ 1 ฎีกาเพียงผู้เดียว ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ที่มิได้ฎีกาด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1)ประกอบมาตรา 247

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารนครธน จำกัด (มหาชน)สาขางามวงศ์วานจำนวน 6 ฉบับ ฉบับละ 100,000 บาท ลงวันที่ 10พฤศจิกายน 2540 วันที่ 11 ธันวาคม 2540 วันที่ 10 มกราคม 2540วันที่ 10 มกราคม 2541 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2541 และวันที่ 10 มีนาคม2541 โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย และจำเลยที่ 2เป็นผู้ลงลายมือชื่อสลักหลังเพื่อชำระหนี้ค่าแชร์ให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2540วันที่ 11 ธันวาคม 2540 วันที่ 12 มกราคม 2541 วันที่ 12 มกราคม 2541วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2541 และวันที่ 10 มีนาคม 2541 ตามลำดับโจทก์คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินตามเช็คแต่ละฉบับนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน คิดถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ย35,997 บาท รวมต้นเงินและดอกเบี้ย 635,997 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 635,997 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 600,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค 6 ฉบับไปในการเล่นแชร์ 2 วงให้แก่จำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นผู้กระทำการแทนหรือตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมชัย พี.เอส.ที. เทรดดิ้งซัพพลาย ซึ่งเป็นนายวงแชร์และจัดให้มีการเล่นแชร์ โดยมิได้สั่งจ่ายเช็คเหล่านั้นให้แก่โจทก์ แต่โจทก์รับโอนเช็คมาจากจำเลยที่ 2 โดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยที่ 1ทั้งนี้เพราะโจทก์รับเช็คมาจากจำเลยที่ 2 ภายหลังวงแชร์ได้ล้มไปแล้วโจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีอำนาจฟ้องกฎหมายห้ามมิให้นิติบุคคลเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์แชร์แต่ละวงมีจำนวนเงินทุนกองกลางต่อ 1 งวดรวมกันสูงกว่า300,000 บาท นอกจากนั้นยังเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์วงอื่นอีก เมื่อรวมกันแล้วมากกว่า 3 วงและมีสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่า 30 คน ไม่สามารถฟ้องร้องบังคับกันได้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน635,997 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน600,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมชัย พี.เอส.ที. เทรดดิ้งซัพพลาย ซึ่งมีจำเลยที่ 2เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการกระทำการเป็นนายวงแชร์ 2 วง โจทก์และจำเลยที่ 1เป็นลูกวงแชร์ทั้งสองวงดังกล่าวเมื่อต้นปี 2540 จำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ทั้งสองวงได้และรับเงินจากโจทก์ไปแล้วได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทรวม 6 ฉบับโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเพื่อชำระหนี้ค่าแชร์ให้แก่โจทก์ เช็คแต่ละฉบับสั่งจ่ายเงินจำนวน 100,000 บาท ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน2540 วันที่ 11 ธันวาคม 2540 วันที่ 10 มกราคม 2541 วันที่ 10 มกราคม2541 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2541 และวันที่ 10 มีนาคม 2541 ตามลำดับเมื่อถึงกำหนดชำระเงิน ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินทุกฉบับคดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่าเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมชัย พี.เอส.ที. เทรดดิ้งซัพพลายกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 5 ที่ห้ามมิให้นิติบุคคลเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์แล้ว สัญญาเล่นแชร์ย่อมเป็นโมฆะและโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ตามฟ้องนั้น เห็นว่า เมื่อวงแชร์ทั้งสองวงที่เป็นมูลหนี้ในการสั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งหกฉบับมีห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมชัยพี.เอส.ที. เทรดดิ้งซัพพลาย ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ อันต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 5 นิติกรรมการเล่นแชร์ทั้งสองวงจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 เช็คพิพาททั้งหกฉบับจึงไม่มีมูลหนี้ที่จะบังคับได้ตามกฎหมายโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาททั้งหกฉบับและคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้สลักหลังร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ใช้เงินตามเช็คพิพาททั้งหกฉบับดังกล่าวแก่โจทก์ ซึ่งเป็นหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยที่ 1 ฎีกาแต่เพียงผู้เดียว เมื่อเช็คพิพาททั้งหกฉบับตามฟ้องไม่มีมูลหนี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ที่ไม่ได้ฎีกาด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1) ประกอบมาตรา 247 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น"

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

( ไพศาล เจริญวุฒิ - วิเทพ ศิริพากย์ - ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ )

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 150 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนการนั้นเป็นโมฆะ

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

มาตรา 245 คำพิพากษาหรือคำสั่งชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะ ระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์ เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้
(1) ถ้าคำพิพากษาหรือคำสั่งที่อุทธรณ์นั้นเกี่ยวด้วยการชำระหนี้ อันไม่อาจแบ่งแยกได้ และคู่ความแต่บางฝ่ายเป็นผู้อุทธรณ์ซึ่งทำให้ คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นมีผลเป็นที่สุดระหว่างคู่ความอื่น ๆ ถ้า ศาลอุทธรณ์เห็นว่าควรกลับคำพิพากษาหรือคำสั่งที่อุทธรณ์ ให้ศาล อุทธรณ์มีอำนาจชี้ขาดว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้มีผล ระหว่างคู่ความทุกฝ่ายในคดีศาลชั้นต้นด้วย
(2) ถ้าได้มีการอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาในคดีแทนคู่ความฝ่ายใด คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมมีผลบังคับแก่คู่ความฝ่ายนั้นด้วย

พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ.2534

มาตรา 5 ห้ามมิให้นิติบุคคลเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์

ติดตั้ง แอพพลิเคชั่น บนมือถือ

🌈👉ติดตั้ง แอปพลิเคชัน👈🌈

💖⚖️“ (ทนายความประชาชน) ”⚖️💖

https://play.google.com/store/apps/

X
ติดตั้ง แอพพลิเคชั่น บนมือถือ